EP 1
EP 2
EP 3
EP 4
EP 5
EP 6
EP 7
EP 8
EP 9
EP 10
EP 11
EP 12
EP 13
EP 14
EP 15
EP 16 (จบ)

Save Me กับดักลัทธิคลั่ง พากย์ไทย

บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนสุดเกเร 4 คนประกอบไปด้วย ฮันซังฮวาน (รับบทโดย แทคยอน) ลูกชายคนเดียวของว่าที่ผู้ว่าฯเมืองมูจี, ซอกดงชอล (รับบทโดย อูโดฮวาน) อาศัยอยู่กับคุณย่าที่เขารักมากและมีพ่อขี้เหล้าฐานะค่อนข้างขัดสน, อูจองฮุน (รับบทโดย เดวิด ลี) ลูกชายของตำรวจสายตรวจประจำเมืองมูจี และ ชเวมันฮี (รับบทโดย ฮาโฮจอง) หนุ่มตัวใหญ่ลูกชายเจ้าของอู่ซ่อมรถ เขาทั้ง 4 คนจะใช้เวลาเตร็ดเตร่และอยู่ด้วยกันตลอดเวลา อยู่มาวันหนึ่งนักเรียนใหม่สาวสวยที่ครอบครัวย้ายมาจากโซลเพราะปัญหาทางการเงิน อิมซังมี (รับบทโดย ซอเยจี) เธอมีน้องชายฝาแฝดพิการขาข้างหนึ่งและหลังจากย้ายมาที่นี่ก็มักจะโดนกลั่นแกล้งล้อเลียนจากเพื่อนในโรงเรียนอย่างรุนแรงจึงตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตายจนเสียชีวิต ครอบครัวของซังมี เศร้าโศกเสียใจอย่างหนักจนแม่ของเธอถึงกับเป็นคนสติหลุดลอย โดยในช่วงเวลานี้เองที่มีโอกาสได้มาพบกับ แบ็คจองกี (รับบทโดย โชซองฮา) ผู้นำลัทธิหนึ่งซึ่งมีที่ตั้งของสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ อยู่ในเมืองมูจีโดยใช้ชื่อว่า คูซอนวอน ผู้นำลัทธิท่านนี้ได้พยายามยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของเธอเป็นอย่างดีจนพ่อของเธอเกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมากจนถึงกับยอมมอบลูกสาวตัวเองให้เป็นภรรยาของผู้นำลัทธิคนนี้ แต่ ซังมี ไม่ยอมและคิดว่านี่คือลัทธิประหลาดที่มีความลับน่ากลัวและน่าขยะแขยงซ่อนอยู่เยอะแยะมากมาย เธอต้องการทำลายลัทธินี้เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเธอ ประเด็นทางสังคมที่ถูกซีรีส์เรื่องนี้ตีแผ่ออกมาสะท้อนความย่ำแย่ได้อย่างเห็นภาพมีอยู่หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งหรือล้อเลียนจุดด้อยของเพื่อนในโรงเรียนจนเกิดการฆ่าตัวตาย คือแกล้งหนักจนไม่อยากอยู่แล้วมันเจ็บกว่าการโดนมีดแทงให้ตายซะอีก หรือพวกนักการเมืองหน้าไหว้หลังหลอกที่พอได้อำนาจและเงินมาก็อยากได้อีกไม่มีวันสิ้นสุด หลอกลวงประชาชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไม่มีอะไรเป็นเรื่องจริงแล้วในชีวิต และโครงเรื่องหลักคือลัทธิที่ทำให้คนหลงเชื่อยอมสละทุกอย่างทั้งเงินทองครอบครัวหรือแม้กระทั่งวิญญาณตัวเองก็ให้ได้หมด โดยลัทธินี้สามารถชักชวนคนเข้ามาร่วมได้ก็เพราะความเก่งในการพูดจาโน้มน้าวจิตใจและเชี่ยวชาญในการใช้จิตวิทยาของผู้นำลัทธิ ที่ใช้ความเชื่อทางศาสนามาเป็นเครื่องมือทำให้ผู้คนเข้ามาเลื่อมใสอย่างบ้าคลั่งจนถึงขนาดบางคนไปกู้หนี้ยืมสินเอามามอบให้ฟรี ๆ ก็มี ขอสรุปตรงนี้จากทุกประเด็นเลยว่าความน่ากลัวความหลอนความหม่นหมองของภาพต่าง ๆ ในซีรีส์มันทำให้คิดได้อย่างหนึ่งว่า มนุษย์เราพอเห็นคนไหนน่ากลัวหน้าตาไม่น่าไว้วางใจหรือดูสกปรกก็จะตัดสินไปก่อนแล้วว่าคนนี้น่าจะไม่ดีหรือไม่น่าไว้วางใจ แต่ถ้าเจอคนพูดจาดียิ้มแย้มแจ่มใสก็จะตัดสินเลยว่าคนนี้น่าคบหา แต่ในความเป็นจริงคนที่น่าคบหาคุยเก่งคนนั้นจิตใจอาจจะเน่าเฟะและน่ากลัวกว่าคนที่ดูสกปรกไม่น่าไว้ใจก็เป็นได้ เหมือนซีรีส์สีโทนมีดเรื่องนี้ที่ดูเหมือนจะเครียดน่ากลัวแต่พอได้ดูแล้วขอบอกเลยว่ามันไม่น่ากลัวและเครียดอย่างที่คิด แต่กลับกันคือสนุกมาก ๆ น่าติดตามตลอดเวลาและคุ้มค่ากับการนั่งดู 16 ตอนอย่างที่สุด อยากให้ลองเปิดใจแล้วรับชมพร้อมคิดตามไปว่าความน่ากลัวของมนุษย์มันไปได้ไกลแค่ไหน เรื่องดี ๆ แบบนี้ ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ